วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554
ตลาดน้ำอัมพวา
อัมพวาเป็นตลาดน้ำยามเย็นจะมีทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 -22.00 น.วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00น. ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จุดมุ่งหมายของอัมพวาที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยวก็คือ การได้ริ้มชิมรสชาติอาหารต่างๆ ที่พ่อค้าแม่ขายมีวางขายกันไม่ว่าจะเป็น "กระเพาะปลาอัมพวา ก๋วยตี๋ยวโบราณอัมพวา ข้าวเหนียวมะม่วงอัมพวา หอยทอดยอดชายอัมพวา ทอดมันสมุนไพรหัวปรีอัมพวา วังแสงกาแฟโบราณอัมพวา ปอเปี๊ยะอัมพวา ร้านข้าวราดแกงหัวมุมอัมพวา น้ำพร้าวอัมพวา เฉาก๊วยอัมพวา" และอีกมากมายหลายอย่างที่คนอัมพวาเค้านำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อย่างส้มโออัมพวา ลิ้นจี่อัมพวา มากมายหลายอย่างให้เลือกของแห้ง ของคาว ของสด อิ่มหนำสำราญกันไปเลย แต่จะให่อร่อยต้องกินกันตรงนั้นเลย เบียดกันนิดเบียดกันหน่อยอบอุ่นดีครับ เพราะบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลย อยากกินอะไรก็ตะโกนสั่งตรงนั้น นั่งกินตรงนั้นได้เลย กินอิ่มแล้วก็ลุกเพื่อให้ คนข้างหลังจะได้กินมั่ง วนเวียนกันไปจะได้ทั่วถึง
ตลาดน้ำอัมพวานี้เพิ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมาไม่นานนี้เอง เนื่องจากเป็นตลาดที่พ่อค้าแม่ขายที่มาขายของกินบ้างของฝากบ้าง ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เกษียรราชการแล้ว จึงออกมาขายขนมบ้าง ขายข้าวแกงบ้าง เนื่องจากการที่ใช้ชีวิตริมคลอง วิถีชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับคลอง ใช้น้ำคลองไม่ว่าจะเป็นล้างจานชาม อาบน้ำ หาปลา ตกกุ้ง จากเดิมที่เริ่มมีร้านขายไม่มากนัก จากไม่กี่ร้าน จนเริ่มเป็นตลาดที่ชาวอัมพวามารวมตัวกันเพื่อเป็นตลาดตอนเย็น เรือพ่อค้าแม่ค้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวคุณตาที่อายุอานามปาเข้าไป 70 ปีแล้ว
เมื่อก่อนพายเรือขายทุกวันมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ตอนนี้คุณตาก็มารวมตัวที่ตลาดยามเย็นกับเค้าด้วย ราคาที่ขายที่ตลาดอัมพวานี้ก็ไม่แพงนัก เนื่องจากเป็นตลาดแบบชาวบ้านอยู่ชาวบ้านกิน ราคาจึงไม่สูงเลย อย่างก๋วยเตี๋ยวของคุณตาราคาก็อยู่ที่ชามละ 10 บามเท่านั้น ราคาย่อมเยาว์แถมได้แบบเต็มๆชาม 10 บาทแบบอิ่มไปเลย จากเป็นที่รู้จักของชาวบ้านริมคลองอัมพวา เริ่มแพร่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น บอกเล่ากันไปปากต่อปาก ทำให้ชื่อเสียงตลาดอัมพวาเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเป็นที่สนในของสื่อหลายๆสื่อ
ที่อัมพวาแห่งนี้มีเสน่ห์ในตัวเองเนื่องจากอยู่แบบพอเพียง นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นๆ จึงทำให้ตลาดน้ำอัมพวาโด่งดังไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดน้ำยามเย็นที่มีของอร่อยๆให้เลือกมากมายหลายอย่างแล้วยังมีวิถีชีวิตริมคลอง บ้านเรือนที่เก่าแก่นับร้อยปี มีวัฒนธรรมที่สวยงาม มีโบสถ์เก่าแก่ที่เป็นสถานที่สำคัญของไทย และเป็น UNSEEN IN THAILAND นั่นก็คือวัดบางกุ้ง ที่มีรากต้นโพธิ์หุ้มโบสถ์เก่าแก่ไว้ เพราะเราสามารถนั่งเรือเที่ยวชมวัดและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ด้วย เพราะที่ตลาดอัมพวาเค้าจะมีให้เลือกเลยว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน วัดอะไร วังมัจฉา หรือจะไปดูวิถีชาวสวน การปลูกพืชผักผลไม้
ที่อัมพวาเค้ามีผลไม้ขึนชื่อหลายอย่างแต่ที่เด่นที่สุดก็คือ ลิ้นจี่อัมพวา ที่เป็นที่รู้จักไปทัวโลก มีรสชาติหวาน และมีเมล็ดที่เล็กมากและมีเนื้อลิ้นจี่เยอะ เพราะหากจะปลูกได้รสชาติที่ดีได้ต้องปลูกที่อัมพวา เพราะเคยมีคนลองเอาไปปลูกที่อื่น รสชาติไม่ได้เหมือนปลูกที่อัมพวา(ข้อมูลจากชาวบ้านอัมพวาคะ)และที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิมก็คือการนั่งเรือชมหิ่งห้อยนับพันๆตัว เป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากมากในเมืองไทย เพราะที่อัมพวามีต้นโกงกางเยอะ และหิ่งห้อยเองก็อาศัยอยู่ต้นโกงกางนี้เอง นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์จะนั่งเรือชมหิ่งห้อย ประกายความงามยามค่ำคืน หรือล่องเรือท่องเที่ยวตามลำน้ำแม่กลอง ก็สามารถติดต่อเรือได้ ติดต่อ โทร.089-4154523
แต่เสน่ห์ที่แท้จริงก็คือวิถีชีวิตชาวบ้านที่ใช้ชีวิตริมคลองที่มีมาช้านานนั่นเอง หมูหิน.คอม อยากให้ชาวอัมพวารักษาขนบธรรมเนียมที่มีมาช้านานให้อยู่ยั่งยืน เพื่อเมืองไทยจะได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เพราะในโลกนี้ก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คือเมืองไทย ที่มีวัฒนธรรมที่สวยงามมายาวนาน อยู่แบบพอเพียง…
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น