วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

พระมหากษัตริย์ผู้เป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

การสอนที่ดีที่สุด คือ การทำเป็นตัวอย่างในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นเยาวชนของชาติ ขอน้อมรับพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน มาใส่เกล้าด้วยว่า... ชื่อของพระองค์ "ภูมิพล" แปลว่า ติดดิน พระราชมารดา หรือสมเด็จย่าคอยบอก คอยเตือนให้ทำตัวติดดิน อย่าลอยแม้เมื่อทำดีแล้วมีคนคอยชื่นชมสรรเสริญ...

ทุกๆท่านคงจะเข้าถึงและเข้าใจได้ว่า แม้พระเจ้าแผ่นดินสูงด้วยศักดิ์ยังปฏิบัติตนเช่นดังกล่าวได้ ไฉนเลย ท่านทั้งหลายจะหยิบยกมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตไม่ได้ ไม่ต้องมีมือถือ ไม่ต้องใช้ของแพง แบรนด์เนมมียี่ห้อ รู้จักใช้ รู้จักประหยัด ดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ตามแบบอย่างที่ดีงามที่พ่อของแผ่นดินของเราชาวไทยได้ดำรงไว้เป็นตัวอย่าง เป็นการสอนที่ไม่ต้องบอกกล่าว แต่ทำให้เห็นด้วยเป็นครูของแผ่นดินอย่างแท้จริง...


"พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิตพอเพียง"

หากเราตั้งใจฟังพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานอย่างมีสติก็จะเห็นว่า แท้จริงแล้วทรงเตือนพวกเราถึงเรื่องการดำเนินชีวิตอย่างประหยัด พอเพียง และเรียบง่ายมาเป็นเวลานานแล้ว

ทรงรับสั่งเกี่ยวกับเรื่อง การกินการโกง ว่า หากบ้านเมืองผู้คนยังโกงฉ้อราษฎร์บังหลวงอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองจะพินาศ

จริงๆแล้วหากจะขจัดการกินการโกงฉ้อราษฎร์บังหลวงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคงต้องเริ่มจากตัวเองเสียก่อน คือ ทุกคนต้องปรับพฤติกรรมการเป็นอยู่ของตัวเองให้มีชีวิตบนความพอดี พอเพียง ประหยัด อดออม อยู่อย่างเรียบง่าย จะได้ไม่แสวงหาประโยชน์บนความสกปรก ง่ายที่สุดก็คือ "ต้องประหยัด" ในเรื่องนี้พวกเราไม่ต้องแสวงหาที่ไหน เพียงแต่ตั้งสติดำเนินชีวิตตามรอยเบื้องพระยุคลบาทก็ไป สู่ความพอดี พอเพียง และประโยชน์สุขแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอุปนิสัยที่ข้าราชบริวารและข้าราชการที่ใกล้ชิดทราบกันดีว่า ทรงประหยัด ซึ่งเป็นพระอุปนิสัยที่ติดพระองค์มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชินีนาถ ทรงฝึกให้พระราชโอรสและพระราชธิดา รู้จักวิธีการประหยัด อดออม ตั้งกระป๋องออมสินไว้กลางที่ประทับ ทรงเรียกว่า กระป๋องคนจน เมื่อถึงสิ้นเดือนจะทรงประชุมทั้ง 3 พระองค์ว่า จะนำเงินก้อนนี้ไปทำประโยชน์ อย่างไร หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจนอย่างไร

สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวในพระราชสำนัก หรือจากสารคดีเฉลิมพระเกียรติก็จะเห็นบ่อยครั้งและอาจสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าแผ่นดินทรงใช้ดินสอที่เหลือสั้นกุดนิดเดียว ใครจะนำไปทิ้งไม่ได้ เพราะจะทรงกริ้วอย่างมาก หรือแม้แต่ฉลองพระองค์สูทหรือเบลเซอร์ ถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นว่า จะทรงสูทองค์เดิมให้เห็นซ้ำๆ บ่อยๆ แม้ว่าจะเสด็จฯในต่างสถานที่และต่างเวลา ทั้งนี้ก็เพราะทรงประหยัด ทรงใช้สิ่งของต่างๆอย่างคุ้มค่าและทะนุถนอม

แม้กระทั่งฉลองพระบาทที่ทรงใช้เวลาเสด็จฯไปเยื่อมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ก็จะทรงฉลองพระบาท องค์เดิม ไม่ใช่ยี่ห้อยอดนิยมหรือมีราคาแพงเลย ราคาไม่กี่ร้อย คู่ไหนชำรุดก็ทรงส่งซ่อมร้านเล็กๆ ใกล้ๆ วัง ทรงใช้คุ้มราคาคุ้มค่าที่สุด

ส่วนนาฬิกาที่มรงใช้นั้น แม้จะมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายนาฬิกายี่ห้อดัง ราคาแพง ก็ไม่ได้ทรงใช้ ทรงใช้นาฬิกา ธรรมดาที่ประชาชนทั่วไปใช้กันอยู่ ทรงมีนาฬิกาเพื่อใช้บอกเวลา ไม่ได้ทรงใช้เพื่อการอื่น มักจะรับสั่งว่า ฉันใส่นาฬิกายี่ห้อ ใส่แล้วโก้ คณะทันตแพทย์เคยนำภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่ทรงใช้แล้วมาแสดงให้ดู ทรง รีดเสียแบนราบ แม้ถึงกระเปาะใกล้จุก ซึ่งอย่างดีเราก็เอานิ้วกดๆ จนคิดว่าหมด แต่ของพระองค์ทรงกดจนแบนติด เรียกว่าหมดเกลี้ยงจริงๆ

นอกจากนี้ทรงประหยัดในการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ ทรงเน้นว่า เป็นการประหยัดเพื่อให้เกิดความยั่งยืน มีกินมีใช้ไปชั่วลูกหลาน ทรงทำให้เห้นเป็นตัวอย่างอยู่ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีอยู่มากมายหลายพันโครงการ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติพระองค์ โดยยึดแนวทางแห่งการประหยัด มีเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ได้ทรงประหยัดเลยก็คือ น้ำพระทัย และพระราชดำริที่พระราชทานมาตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรไทยให้มีความเป้นอยู่อย่างพอเพียง อยู่ดีกินดี และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขกันถ้วนหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น