วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

ผลไม้กีวี




กีวี เป็นผลไม้เมืองหนาว มีชื่อสามัญว่า Kiwi fruit และ Chinese gooseberry ภาษจีนเรียกกีวีว่า หมีโหวเถา (mi houtao) ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Actinidia chinensis L. กีวีมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน พบมากแถบลุ่มแม่น้ำฉางเจียง แยงซีเกียง) ในสมัยก่อนกีวีได้รับการยกย่องจากพระมหาจักรพรรดิ ว่าเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเลิศ กีวีเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายนอกประเทศจีนในช่วงปี ค.ศ. 1800-1900 จากนั้นมีคนนำไปปลูกในประเทศนิวซีแลลนด์ ช่วงปี ค.ศ. 1906 และมีการปรับปรุงพันธุ์จนได้ผลกีวีที่มีรสชาติยิ่งขึ้นเมื่อแรกนำผลไม้ชนิดนี้เข้าปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ใช้ชื่อเดิมว่า Chinese gooseberry ต่อมานิวซีแลนด์ได้กลายเป็นประเทศผู้ปลูกและส่งออกกีวีรายใหญ่ที่สุดของโลก จึงได้เปลี่ยนชื่อเรียกผลไม้ชนิดนี้เป็น kiwi fruit ตามสัญลักษณ์ของประเทศ ซึ่งก็คือนกกีวีนั่นเอง ในเมืองไทยได้มีการทดลองนำกีวีเข้ามาปลูกในพื้นที่บนดอยอ่างขาง และดอยขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

กีวีเป็นไม้ผลัดใบ ประเภทไม้เลื้อย กิ่งและใบมีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับก้านใบยาว ดอกเป็นแบบไม่สมบูรณ์เพค ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียจะอยู่ต่างต้นกัน มีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกตัวเมียจะอยู่ต่างต้นกัน มีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกสีขาว ผลกีวีมีรูปทรงไข่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 5 ซม. สีน้ำตาล มีขนเส้นเล็ก ๆ ปกคลุมทั่วผล เนื้อในสีเขียวใส เนื้อหนา ชุ่มน้ำ รสอมเปรี้ยวอมหวาน พันธุ์กีวีที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
พันธุ์ Abbott มีรูปร่างกลมรี ขนยาวปกคลุมทั่วผล
พันธุ์ Allison รูปร่างกลมรี คล้ายกับพันธุ์ Abbott แต่มีขนาดใหญ่กว่า
พันธุ์ Bruno ผลใหญ่ ยาวรีกว่าพันธุ์อื่น ๆ ผิวเปลือกสีน้ำตาลเข้ม ขนอ่อนสั้นและเปราะ
พันธุ์ Hayward ผลเป็นรูปไข่ ผิวเปลือกสีน้ำตาลอมเขียวมีขนอ่อนปกคลุมทั่วเปลือก
พันธุ์ Monty เป็นพันธุ์ที่ตรงขั้วผลสอบ ส่วนท้ายผลโค้งมีขนอ่อนปกคลุม ขนาดผลใกล้เคียงกับพันธุ์ Abbott และ Allison
กีวีที่ปลูกบนดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ มี 5 สายพันธุ์ พันธุ์ที่ปลูกเพื่อการค้า ได้แก่ พันธุ์ Bruno และ Hayward ปลูกเพื่อการศึกษา ได้แก่ พันธุ์ Abbott, Monty และ Dexter ให้ผลเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน กีวีเป็นผลไม้ที่สามารถเก็บไว้ได้นานถึงครึ้งปีหรือหนึ่งปี เนื่องจากเปลือกของกีวีมีคุณสมบัติห่อหุ้มเนื้อได้ดี เนื้อกีวีรสหวานอมเปรี้ยว ชุ่มคอ กินเป็นผลไม้สด และนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น กีวีแช่แข็ง กีวีกวน กีวีตากแห้ง กีวีกระป๋องใช้ทำน้ำผลไม้ และไวน์ขาว ผลกีวีสดนิยมนำมาใช้แต่งหน้าเค้กและสลัดให้มีสีสันสวยงาม
นอกจากนี้กีวียังใช้ปรุงอาหารจานเนื้อและเป็นส่วนผสมในการหมักเนื้อได้ด้วย เพราะกีวีมีเอนไซม์ช่วยการย่อยโปรตีน ทำให้เนื้อนุ่มชึ้น
คุณค่าอาหารและสรรพคุณ

กีวี มีสารอาหารหลายชนิด เช่น เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินซี วิตามินอี และมีเส้นใยมาก ให้แคลอรี่ต่ำและไม่มีโคเลสเตอรอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น